บทความ > อาการเบรคติดหรือเบรคค้าง เกิดจากอะไร?
อาการเบรคติดหรือเบรคค้าง เกิดจากอะไร? เกิดจากคราบสนิมหรือลูกยางบวม ทำให้กลไกในระบบเบรคเกิดการติดขัด ไม่เคลื่อนที่กลับ ส่งผลให้เบรคติด ซึ่งสามารถสังเกตอาการเบรคติดได้จากกลิ่นไหม้, การเคลื่อนที่รถช้าๆโดยไม่ได้ทำการเหยียบเบรค แต่รู้สึกเหมือนเบรคกำลังทำงานอยู่ อาจจะเช็คด้วยการจอดรถเข้าเกียร์ว่าง ปลดเบรคมือ แล้วทดลองเข็นรถดู ว่ารู้สึกฝืดๆไหม
อาการเบรคติดหรือเบรคค้าง มีจุดที่เป็นสาเหตุหลักๆอยู่ด้วยกัน 8 จุดดังนี้ 1. ลูกสูบดิสเบรค เกิดจากคราบสนิมที่เกิดจากความชื้นที่น้ำมันเบรคดูดซับไว, จอดรถทิ้งไว้นานๆแล้วลูกสูบไม่ได้มีการเคลื่อนที่เลย ส่งผลให้ลูกสูบไม่เคลื่อนที่กลับ 2. ยางกันฝุ่นดิสเบรค เกิดจากการฉีกขาด ทำให้มีความชื้นหรือสิ่งสกปรกเข้าไปในลูกสูบ ส่งผลให้ลูกสูบไม่เคลื่อนที่กลับ 3. ยางดิสเบรค เกิดจากการเสื่อมสภาพของยางดิสเบรค จนเกิดอาการบวม ส่งผลให้ลูกสูบไม่เคลื่อนที่กลับ 4. กระบอกเบรค เกิดจากคราบสนิมที่เกิดจากความชื้นที่น้ำมันเบรคดูดซับไว, จอดรถทิ้งไว้นานๆแล้วลูกสูบไม่ได้มีการเคลื่อนที่เลย ส่งผลให้ลูกสูบไม่เคลื่อนที่กลับ 5. ยางกันฝุ่นกระบอกเบรค เกิดจากการฉีกขาด ทำให้มีความชื้นหรือสิ่งสกปรกเข้าไปในกระบอกเบรค ส่งผลให้ลูกสูบไม่เคลื่อนที่กลับ 6. ลูกยางกระบอกเบรค เกิดจากการเสื่อมสภาพของลูกยางกระบอกเบรค จนเกิดอาการบวม ส่งผลให้ลูกสูบไม่เคลื่อนที่กลับ 7. สลักคาลิปเปอร์เบรค เกิดจากคราบสนิมที่เกิดจากจอดรถทิ้งไว้นานๆแล้วสลักคาลิปเปอร์เบรคไม่ได้มีการเคลื่อนที่เลย ส่งผลให้คาลิปเปอร์เบรคไม่เคลื่อนที่กลับ 8. สายเบรคมือ เกิดจากคราบสนิมที่เกิดจากจอดรถทิ้งไว้นานๆแล้วกลไกสายเบรคมือไม่ได้มีการเคลื่อนที่เลย ส่งผลให้กลไกสายเบรคมือไม่เคลื่อนที่กลับ
ติดต่อสอบถาม สั่งซื้อสินค้า โทร : 089-784-3981